วันพุธที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2555

หลักการจัดคนเข้าทำงานและหลักการสั่งการอำนวยการ

หลักการจัดคนเข้าทำงานและหลักการสั่งการอำนวยการ
ระบบการบริหารงานบุคคล
1. ระบบคุณธรรม Merit System ใช้หลักเกณฑ์
     1.1 หลักความเสมอภาค เช่น มีสิทธิสอบได้ทุก
     1.2 หลักความสามารถ เช่น คัดเลือกผู้มีความสามารถสูงไว้ก่อน
     1.3 หลักความมั่นคง เช่น ถ้าไม่ผิดวินัย ก็ไม่ถูกลงโทษให้ออกอยู่จนเกษียณ
     1.4 หลักความเป็นกลางทางการเมือง เช้า ห้ามข้าราชการเป็นกรรมการบริษัท
2. ระบบอุปถัมภ์ Patronage System ยึดถือพวกพ้อง เครือญาติ หรือผู้มีอุปการะคุณ
การจำแนกตำแหน่ง
แบ่งเป็น 3 ประเภท

     1. จำแนกตำแหน่งตามลักษณะตำแหน่ง Position Classification เป็นการจำแนกตำแหน่งโดยถือลักษณะความรับผิดชอบของตำแหน่งเป็นสำคัญ เช่น กลุ่มเจ้าหน้าที่ธุรการ การเงิน นิติกร วิศวกร เป็นต้น
     2. การจำแนกตำแหน่งตามลักษณะยศ Rank Classification เป็นการจำแนกตำแหน่งตามตำแหน่งที่ประกอบกับชั้นยศใช้กับทหาร ตำรวจ
     3.การจำแนกตำแหน่งตามลักษณะชั้นยศทางวิชาการ Academic Rank Classification จำแนกตามคุณลักษณะความเชี่ยวชาญ วิชาการ เช่น ครู อาจารย์
ขั้นตอนของการวางแผนกำลังคน
-ศึกษานโยบายและแผนขององค์การ กระบวนการวางแผนกำลังคนต้องให้สอดคล้องกับนโยบายและแผนขององค์การ และคาดคะเนปัจจัยหลาย ๆ อย่างที่มีผลกระทบต่อการกำหนดนโยบายและแผนขององค์การ เช่น แนวโน้มของธุรกิจนั้น ๆ ในอนาคต, การขยายตัวและการ
เจริญเติบโตขององค์การ (และคู่แข่ง), การเปลี่ยนแปลงรูปแบบและโครงสร้างองค์การ, การเปลี่ยนแปลงในแนวคิดปรัชญาการบริหารในอนาคต, บทบาทของรัฐบาล, บทบาทสหภาพแรงงาน, การแข่งขันของธุรกิจทั้งภายในและภายนอกประเทศ
-การตรวจสภาพกำลังคน ; ค้นหาอย่างเป็นระบบเกี่ยวกับสภาพกำลังคนที่มีอยู่ในองค์การ เช่น จำนวนตำแหน่ง อัตรากำลังคน ความสามารถของพนักงานที่มีอยู่ การตรวจสภาพกำลังคนอาจจะทำได้ดังต่อไปนี้
     1. การวิเคราะห์งานแต่ละตำแหน่ง องค์การมีตำแหน่งอะไรบ้าง มีคุณสมบัติแต่ละตำแหน่งอย่างไรบ้าง
     2. การทำบัญชีรายการทักษะ ตรวจสภาพพนักงานแต่ละคนมีความสามารถ ชำนาญถนัดในด้านใดบ้าง
     3. คาดการความสูญเสียกำลังคนในอนาคต ใครจะลาออกในอนาคต ใครเกษียณอายุปีหน้าบ้าง
     4. ศึกษาความเคลื่อนไหวภายในเกี่ยวกับ การเลื่อนขั้น เลื่อนตำแหน่ง โยกย้าย ให้เป็นปัจจุบันตลอดเวลา
แผนภูมิแสดงความเคลื่อนไหวของบุคคลาการในองค์การ
-การพยากรณ์ความต้องการกำลังคน คล้ายกับการตรวจสภาพกำลังคน แต่การพยากรณ์มุ่งเน้นอนาคต จะอาศัยปัจจัยต่อไปนี้เพื่อช่วยในการพยากรณ์คือ
     1.ปริมาณการผลิต
     2.การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี
     3.อุปสงค์และอุปทาน
     4.การวางแผนอาชีพให้แก่พนักงาน
Career Planning
-การเตรียมหาคนสำหรับอนาคต อาจทำได้ดังนี้
     1.การฝึกอบรมพัฒนาพนักงานที่มีอยู่ ช่วยขวัญกำลังใจ แผนอาชีพ
     2.การสรรหาคัดเลือกบุคคลจากภายนอก ตลาดแรงงาน
การวางแผนกำลังคนที่ดี
1. ภาระงาน Workload หน้าที่ความรับผิดชอบชั่วโมงงาน
2. การออกแบบงาน Job Design เป็นการออกแบบโครงสร้างงานต่างๆ ทั้งองค์การว่ามีกลุ่มงาน     อะไรบ้าง
3. การวิเคราะห์งาน Job Analysis วิเคราะห์งานแต่ละตำแหน่ง กำหนดคุณลักษณะที่จำเป็นแต่ละ ตำแหน่ง เช่น ความสำคัญของงาน ระดับความเป็นอิสระ ตัวบ่งชี้ผลลัพธ์ของงาน ความรู้ความสามารถและทักษะที่จำเป็น เพื่อกำหนดรายละเอียดของตำแหน่ง Job Description และ คุณสมบัติเฉพาะตำแหน่ง Job Specification
4. รายละเอียดของตำแหน่งงาน Job Description เป็นการกำหนดชื่อตำแหน่งงานที่ต้องปฏิบัติ
5. คุณสมบัติเฉพาะตำแหน่ง Job Specification เป็นการกำหนดรายละเอียดในตำแหน่งลึกลงไปอีก
6. การทำให้งานมีความหมาย Job Enrichment เป็นวิธีการจูงใจและพัฒนาบุคลากรให้เกิดความพึงพอใจในการทำงาน (จิ๋วแต่แจ๋ว, เล็กดีรสโต) (Job Enlargement) เล็ก ๆ มิต้าไม่ ใหญ่ ๆ มิต้าทำ
องค์ประกอบของการอำนวยการ
1. ความเป็นผู้นำ ; เป็นกระบวนการของการสั่งการ และการใช้อิทธิพลต่อกิจกรรมต่างๆ ของสมาชิกในองค์การ ให้ยอมตามเพราะยอมรับในอำนาจที่มาจาก 3 แหล่ง คือ ขนบธรรมเนียมประเพณีที่สืบทอดกันมา อำนาจจากบารมี และอำนาจตามกฎหมาย จึงก่อให้เกิดผู้นำ 3 แบบ คือ แบบประชาธิปไตย แบบเผด็จการ และแบบตามสบาย
2. การจูงใจ ; มีความสำคัญต่อการสั่งการหรือการอำนวยการ เพราะเกี่ยวกับบุคลากรให้ปฏิบัติงาน จึงจำเป็นต้องมีการจูงใจหรือกระตุ้นให้อยากทำงาน โดยอาศัยหลักธรรมชาติว่ามนุษย์ต้องการ 5 ระดับได้แกความต้องการขั้นพื้นฐาน คือปัจจัย 4 ความต้องการความมั่นคงปลอดภัย ความต้องการทางสังคม ความต้องการมีเกียรติยศชื่อเสียง และความต้องการประสบความสำเร็จในชีวิตดังนั้น ในการสั่งการโดยมีเทคนิคจูงใจด้วย ก่อนจะสั่งการควรขึ้นคำถามก่อนว่า พอมีเวลาหรือไม่หรือ คุณจะช่วยงานนี้ได้ไหม
3. การติดต่อสื่อสาร ; เป็นกระบวนการสำคัญช่วยให้การอำนวยการดำเนินไปได้ด้วยดีมีประสิทธิภาพ มี 2 ลักษณะคือ สื่อสารแบบทางเดียว และสื่อสารแบบ 2 ทาง
4. องค์การและการบริหารงานบุคคล จุดมุ่งหมายของนักอำนวยการคือ ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและองค์การ ซึ่งต้องการไม่เหมือนกันผู้อำนวยการจึงต้องทำให้เกิดความสมดุลกัน
ประเภทของการอำนวยการ
โดยวาจา
โดยลายลักษณ์อักษร  ได้แก่
1. ทำบันทึกข้อความ
2. หนังสือเวียน
3. คำสั่ง
4. ประกาศ
รูปแบบของการอำนวยการ
1. คำสั่งแบบบังคับ
2. คำสั่งแบบขอร้อง
3. คำสั่งแบบแนะนำหรือโดยปริยาย
4. คำสั่งแบบขอความสมัครใจ

การอำนวยการที่ดี
ต้องชัดเจน
ให้คำสั่งมีลักษณะแน่นอน ไม่ใช่ตามอารมณ์
ถ้าผู้รับคำสั่งมีท่าทีสงสัย ให้ขจัดความสงสัยทันที
ใช้นำเสียงให้เป็นประโยชน์
วางสีหน้าเข้มแข็งเอาจริงเอาจัง
ใช้ถ้อยคำอย่างสุภาพ
ลดคำสั่งที่มีลักษณะ ห้ามการกระทำให้เหลือน้อยที่สุด
อย่าออกคำสั่งในเวลาเดียวกัน มากเกินไป
ต้องแน่ใจว่าการออกคำสั่งหลาย ๆ คำสั่ง ไม่ได้ขัดแย้งกันเอง
ถ้าผู้รับปฏิบัติ ปฏิบัติไม่ได้ อย่าบันดาลโทสะ พิจารณาตนเองว่าเหตุใด คำสั่งไม่ได้ผล อย่าโยนความผิดให้ผู้รับคำสั่ง
 ให้นิสิตอธิบายความเชื่อมโยงการบริหารงานบุคคลกับการอำนวยการมีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดการศูนย์ทรัพยากรการเรียนอย่างไร
-การกริการงานบุคคลเป็นการจัดบุคคลหรือเป็นการมอบหมายงานให้บุคคลที่ถูกคัดเข้ามาให้ตรงกับความสามารถโดยคำนึงถึงเป้าหมายขององค์กรและเมื่อมีบุคลากรแล้วยังต้องมีการอำนายการที่ดีเพราะการอำนวยการคือการชี้แนะแนวทางการทำงาน การควบคุมการทำงานในองค์กรและเป็นการประเมินเพื่อแก้ไขและพัฒนาองค์กรให้เป็นไปตามแผนที่ว่างไว้และบรรลุตามเป้าหมายขององค์กร ดังนั้นการบริหารงานบุคคลและการอำนวยการจึงมีความเกี่ยวข้องกับการจัดการศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้เพราะในศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้มีตำแหน่งการทำงานที่ต่างกันจึงต้องมีการจัดบุคคลลงในงานที่ถูกต้องและต้องการการอำนวยการที่ดีเพื่อให้การทำงานในแต่ละตำแหน่งเป็นไปอย่างราบรื่น และบรรลุวัตถุประสงค์หรือเป้าหมายของศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น